ฟักทอง บัตเตอร์นัท (butternut squash) OP

ฟักทองบัตเตอร์นัท  (เมล็ดนำเข้ามาจากประเทศสหรัฐอเมริกา )

ฟักทองบัตเตอร์นัท  (Butternut Sqash) เป็นผลไม้กลุ่มสควอช  ลักษณะผลแก่ จะเปลี่ยนจากสีเหลืองอ่อน เป็นสีเหลืองอมน้ำตาล รูปร่างคล้ายน้ำเต้าทรงสูง เนื้อแน่นสีเหลืองส้ม รสชาติหวาน มัน คล้ายฟักทอง และ หอมเมื่อนำไปปรุงอาหาร มีกลิ่นเนย ปลูกได้ทุกภาคของไทย เนื้อหนารสชาติหวาน มัน ใช้ทำอาหารได้หลายอย่างทั้งอาหารไทย และอาหารฝรั่ง สามารถเก็บผลไว้ได้นาน

คุณประโยชน์  บัทเตอร์นัท (Butternut Sqash) มีประโยชน์มากมายอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระในปริมาณสูง ทำให้ผิวพรรณดี ช่วยฟื้นฟูสภาพผิวลดรอยเหี่ยวย่น บำรุงสายตา เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังลดน้ำหนัก และ Healthy Food เพราะมีแคลลอรี่ และ มีไขมันต่ำ มีกากใยอาหารสูงมาก มีคุณสมบัติในการช่วยลดคอเลสตอรอลในเส้นเลือด อุดมไปด้วยวิตามินA วิตามินC วิตามินB-6 แคลเซียม เหล็ก แมกนีเซียม และ เบต้าแคโรทีน

สำหรับเด็กเล็ก  เด็กเล็กเมื่อย่างเข้าเดือนที่ 6 คุณพ่อคุณแม่จำเป็นต้องเสริมอาหารมื้อต่างๆ เข้าไปเพื่อให้ลูกได้รับอาหารเพียงพอสำหรับการเจริญเติบโตที่เป็นไปอย่างรวดเร็ว บัตเตอร์นัท เหมาะสำหรับนำมาทำเมนูอาหารให้เด็กเล็กตั้งแต่วัย 6 เดือนขึ้นไป

วิธีเพาะเมล็ด และ การย้ายปลูก ฟักทองบัตเตอร์นัทปลูกง่าย ในประเทศไทยนิยมปลูกในช่วงเริ่มต้นฤดูหนาว หรือ ช่วงอุณหภูมิประมาณ 20 องศาเซลเซียส ใช้เวลาปลูกจนถึงเก็บเกี่ยวประมาณ 110-120 วัน

               เริ่มเพาะเมล็ด  โดยปลูกลงในกระถางขนาด 4-6 นิ้ว ฝังเมล็ดลึกประมาณ 1 นิ้ว เมื่อต้นโตแข็งแรงแล้วจึงย้ายปลูก โดยเว้นระยะห่างระหว่างต้นประมาณ 1 เมตร

วิธีปลูกฟักทองบัตเตอร์นัทในกระถาง  หากเราต้องการปลูกลงในกระถาง จะต้องเลือกใช้กระถางหรือภาชนะปลูกที่มีขนาดความกว้าง และ ความลึกไม่น้อยกว่า 45 เซนติเมตร และ วางกระถางในบริเวณที่ได้รับแสงสว่าง มีอากาศถ่ายเทได้ดี และดินปลูกที่ร่วนซุยน้ำไม่ขัง

การเก็บเกี่ยว    วิธีการดูว่าผลฟักทองบัตเตอร์นัท พร้อมที่จะเก็บเกี่ยวได้แล้วง่ายๆคือ ดูที่เปลือกว่าแข็งแล้วหรือยัง โดยใช้เล็บจิกดู ถ้าเริ่มจิกไม่เข้า แสดงว่าแก่เก็บได้แบบเดียวกับฟักทองทั่วไป

*** ต้นฟักทองบัตเตอร์นัท เมื่อโตแล้วจะดูยากว่า กลางลำต้น หรือ หลุมปลูกอยู่ตรงไหนทำให้รดน้ำ และ ใส่ปุ๋ยลำบาก เราอาจใช้ไม้ปักตรงกลางหลุมปลูกเพื่อพยุงต้นตอนปลูกลงหลุมใหม่จะช่วยได้มาก